ข้อควรรู้เลี้ยงสัตว์ในคอนโด

การเลี้ยงสัตว์ในคอนโดมีทั้งข้อดีและข้อเสียที่ควรพิจารณาอย่างรอบคอบค่ะ ก่อนตัดสินใจเลี้ยงสัตว์ในคอนโด ควรตรวจสอบข้อกำหนดของทางโครงการอย่างละเอียด เพราะแต่ละโครงการมีกฎระเบียบที่แตกต่างกันไป บางโครงการอาจไม่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์เลย หรืออาจมีข้อจำกัดเรื่องขนาดหรือชนิดของสัตว์เลี้ยง เช่น ห้ามเลี้ยงสุนัขหรือแมวขนาดใหญ่ เป็นต้น

ข้อดีของการเลี้ยงสัตว์ในคอนโด:

  • สร้างความสุขและผ่อนคลาย: สัตว์เลี้ยงช่วยลดความเครียดและเพิ่มความสุขให้กับผู้เลี้ยง ทำให้ชีวิตมีสีสันมากขึ้น
  • มีเพื่อนคลายเหงา: สำหรับคนที่อยู่คนเดียว สัตว์เลี้ยงก็เปรียบเสมือนเพื่อนที่คอยอยู่เป็นเพื่อน ไม่ให้รู้สึกเหงา
  • เพิ่มความรับผิดชอบ: การเลี้ยงสัตว์สอนให้เรารู้จักความรับผิดชอบ ต้องดูแลเอาใจใส่ และจัดการความต้องการของสัตว์เลี้ยง

ข้อเสียของการเลี้ยงสัตว์ในคอนโด:

  • เสียงรบกวน: สัตว์เลี้ยงบางชนิดอาจส่งเสียงรบกวนเพื่อนบ้าน เช่น เสียงเห่า เสียงร้อง หรือเสียงข่วนพื้น
  • กลิ่น: กลิ่นจากสัตว์เลี้ยง เช่น กลิ่นอุจจาระ ปัสสาวะ หรือกลิ่นตัว อาจรบกวนเพื่อนบ้านได้
  • ความสะอาด: ต้องหมั่นทำความสะอาด ดูแลความสะอาดของสัตว์เลี้ยงและพื้นที่อยู่อาศัย เพื่อป้องกันปัญหาเรื่องกลิ่นและความสกปรก
  • ข้อจำกัดด้านพื้นที่: คอนโดมีพื้นที่จำกัด อาจไม่เหมาะกับสัตว์เลี้ยงบางชนิดที่ต้องการพื้นที่กว้างขวางในการเคลื่อนไหว
  • ค่าใช้จ่าย: ต้องเตรียมค่าใช้จ่ายสำหรับอาหาร อุปกรณ์ และค่ารักษาพยาบาลสัตว์เลี้ยง
  • ความรับผิดชอบ: การเลี้ยงสัตว์เป็นเรื่องที่ต้องรับผิดชอบอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่แค่ความสนุกสนาน
  • ปัญหาจากเพื่อนบ้าน: อาจเกิดความขัดแย้งกับเพื่อนบ้านได้หากสัตว์เลี้ยงสร้างความรำคาญ

1.เลือกคอนโดแบบ Pet – Friendly

ข้อเริ่มต้นนี้ถือว่าสำคัญที่สุด เพราะเราไม่ควรแอบเอาสัตว์มาเลี้ยงโดยเด็ดขาดถ้าหากทางคอนโดเขาไม่อนุญาต เพราะเราเองก็คงใช้ชีวิตแบบไม่มีความสุข ต้องคอยหวาดระแวง หลบๆ ซ่อนๆ กลัวว่าจะถูกใครจับได้ อีกทั้งยังอาจต้องกักบริเวณเจ้าสัตว์เลี้ยงของเราเอง ทำให้สัตว์เลี้ยงเกิดความเครียดตามไปด้วย เรียกว่าไม่มีความสุขทั้งผู้เลี้ยงและสัตว์เลี้ยงเลยทีเดียว

2.ตัดใจไม่เลี้ยงสัตว์ใหญ่ หรือสัตว์ที่ส่งเสียงดังน่ารำคาญ

การเลี้ยงสัตว์ขนาดใหญ่ เช่น น้องหมาตัวใหญ่ จำเป็นต้องใช้พื้นที่มาก ซึ่งคอนโดส่วนใหญ่มักมีพื้นที่ค่อนข้างจำกัด ทำให้คอนโดบางแห่ง มีการกำหนดขนาดของสัตว์เลี้ยงที่สามารถนำมาเลี้ยงในคอนโดได้

3.ปัญหาเรื่องกลิ่นต้องจัดการ

ถ้าใครที่เลี้ยงแมวหรือสุนัขจะรู้ดีกว่า สิ่งที่ตามมานอกจากเรื่องของขนที่ร่วงบ่อยแล้ว ก็คือปัญหาเรื่องของกลิ่น กลิ่นอับกับคอนโดซึ่งเป็นสถานที่ที่มีจุดระบายอากาศค่อนข้างน้อย ถือเป็นฝันร้ายสำหรับคนอยู่อาศัย เพราะการอยู่ในคอนโดที่มีพื้นที่จำกัดและตัวห้องติดๆ กันนั้น กลิ่นของสัตว์เลี้ยงที่เราชินจมูกไม่ได้รู้สึกรังเกียจอะไร อาจจะลอยออกไปรบกวนเพื่อนบ้านก็เป็นได้ ดังนั้น เราผู้เป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยง ต้องหาวิธีกำจัดกลิ่นเหล่านั้นให้เรียบร้อย จะด้วยการทำความสะอาดสัตว์เลี้ยงของเราเองบ่อยๆ, การทำความสะอาดกรงหรือพื้นที่เลี้ยงสัตว์นั้นบ่อยๆ

4.เก็บสิ่งขับถ่ายของสัตว์เลี้ยงทุกวัน

ปัญหาการกระทบกระทั่งกันที่เราเห็นอยู่บ่อยๆ ของคนชอบเลี้ยงสัตว์กับคนไม่เลี้ยงสัตว์ ส่วนใหญ่มักมาจากการขับถ่ายของสัตว์ที่เราเลี้ยง หากเป็นในห้องคอนโดของเราเอง คงไม่มีใครมาวุ่นวายด้วยมากนัก แต่ถ้าต้องพาเจ้าลูกรักของเราออกไปข้างนอก ไปเดินเล่นในพื้นที่ส่วนกลางของคอนโด หรือบางทีเจ้าน้องหมาน้องแมวของเรา ก็แอบเราออกไปเอง พวกสิ่งขับถ่ายที่เกิดขึ้นเหล่านี้ นอกจากจะสร้างความสกปรกให้กับพื้นที่แล้ว อุจจาระของน้อง ก็ยังเต็มไปด้วยเชื้อโรคและพยาธิมากมาย ดังนั้น หน้าที่สำคัญของผู้เลี้ยง ก็คือการเก็บสิ่งขับถ่ายของสัตว์เลี้ยงให้เรียบร้อย ซึ่งมีหลากหลายวิธี

5.ป้องกันสัตว์เลี้ยง ไม่ให้ออกไปเพ่นพ่านข้างนอกห้อง

สัตว์เลี้ยงบางประเภทสามารถก่อความรำคาญให้กับเพื่อนบ้านในคอนโดได้ หากมันหลุดออกไปเพ่นพ่าน บางคนชอบเลี้ยง นก หนู งู หรือสัตว์เลี้ยงแปลกๆ ที่คนส่วนใหญ่ไม่นิยมหรือกลัวก็มี หรือแม้กระทั่งน้องแมวธรรมดาที่ชอบออกไปหนีเที่ยวนอกห้อง ก็มักจะไปขับถ่ายของเสียทิ้งไว้ ฉะนั้น ถ้าหากเราจะเลี้ยงสัตว์ในคอนโด อย่าลืมปิดประตูและหน้าต่างให้เรียบร้อยหากเราไม่อยู่ และหมั่นตรวจสอบกรงหรืออุปกรณ์ที่เลี้ยงสัตว์เหล่านั้น ให้แข็งแรงแน่นหนาอยู่เสมอ และหากห้องของเราอยู่ชั้นที่สูงๆ บริเวณระเบียงด้านนอก ควรติดตะแกรงหรือตาข่ายไว้อย่างมิดชิด เพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยง เช่น น้องหมาหรือน้องแมวที่กำลังซนและชอบปีนป่าย จะได้ไม่ตกลงไปข้างล่าง ซึ่งนอกจากจะเป็นอันตรายต่อสัตว์เลี้ยงแล้ว ยังอาจจะเป็นอันตรายต่อผู้อื่น

สรุปแล้ว การเลี้ยงสัตว์ในคอนโดมิเนียมไม่ว่าจะเป็นสุนัขหรือแมว หรือสัตว์อื่นๆ หัวใจสำคัญ คือ ต้องคำนึงถึงเพื่อนร่วมอาศัยห้องคอนโดข้างเคียงเป็นหลัก เพราะทุกคนอยู่ภายในคอนโดเดียวกัน การรบกวนจะเกิดขึ้นได้มากกว่าที่พักอาศัยประเภทอื่นๆ ทั้งเรื่องของกลิ่นและเสียงของสัตว์เลี้ยง สามารถส่งผ่านไปถึงกันได้ง่าย จึงควรมีความรับผิดชอบ ทั้งในแง่จิตสำนึกต่อผู้อื่น และความเอาใจใส่ต่อสัตว์ที่เลี้ยงอยู่ด้วยนะคะ



Simplifying Property, Together.

ร่วมกันทำให้เรื่องอสังหาฯ ง่ายขึ้น

วิธีรับมือเพื่อนบ้าน

วิธีรับมือกับเพื่อนบ้าน

ปัจจุบันหนึ่งในรูปแบบการลงทุนอสังหาฯ ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดนั้น ก็คือ การปล่อยเช่าคอนโด เนื่องจากความต้องการคอนโดในเมือง ในทำเลที่เดินทางสะดวก ไปทำงานได้แบบไม่ต้องฝ่ารถติดนั้นมีจำนวนมาก

อีกทั้งการลงทุนปล่อยเช่าคอนโดก็ไม่ได้ต้องใช้เงินลงทุนก้อนใหญ่อย่างที่คิด เพราะสามารถขอกู้สินเชื่อจากธนาคารได้ จึงทำให้นักลงทุนอสังหาฯ มือใหม่นิยมเริ่มต้นการลงทุนอสังหาฯ ของตัวเองด้วยการปล่อยเช่าคอนโดเป็นลำดับแรก

แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่ควรต้องรู้เอาไว้ก่อนที่จะตัดสินใจปล่อยเช่าคอนโดนั้น ก็คือ ข้อกฎหมายสำคัญที่อาจทำให้การปล่อยเช่ามีปัญหาได้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความวุ่นวายตามมาภายหลังเมื่อดำเนินการปล่อยเช่าไปแล้ว โดยข้อกฎหมายสำคัญที่ควรรู้ก่อนทำการปล่อยเช่าคอนโด มีดังต่อไปนี้

 

1. การปล่อยเช่าคอนโดรายวันรายสัปดาห์ผิดกฎหมาย

การประสบความสำเร็จของ AirBNB ที่ให้เจ้าของบ้าน ห้อง กลายมาเป็นเจ้าของโรงแรมปล่อยให้เช่าห้องของตัวเอง ทำให้เกิดกระแสการปล่อยเช่าคอนโดแบบรายวันรายสัปดาห์ขึ้นในไทย ซึ่งถือเป็นการทำผิดกฎหมาย เพราะโครงการคอนโดมิเนียมโดยทั่วไปที่ขายห้องสำหรับให้อยู่อาศัยนั้น ผู้ที่ซื้อไปแล้วไม่สามารถไปปล่อยเช่าระยะสั้นรายวันหรือรายสัปดาห์ได้ เนื่องจากไม่ใช่ “โรงแรม” ดังนั้น การดำเนินธุรกิจแบบโรงแรม แต่ไม่ได้เป็นโรงแรมนั้นจึงผิดกฎหมาย ขัดต่อพระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ. 2547 ซึ่งหากตรวจสอบพบ จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

2. ถ้าผู้เช่าเป็นชาวต่างชาติต้องแจ้งตำรวจ

กลุ่มลูกค้าสำหรับการปล่อยเช่าคอนโดนั้นไม่ได้มีเพียงแค่คนไทยด้วยกันเอง แต่การปล่อยเช่าคอนโดให้กับชาวต่างชาติที่มาเที่ยวระยะยาว หรือมาทำงานในเมืองไทยนั้นก็เป็นอีกหนึ่งตลาดที่มีกำลังซื้อสูงมาก แต่ในโอกาสก็มีวิกฤตซ่อนอยู่ด้วยหากผู้ให้เช่าไม่ปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมาย โดยถ้าจะต้องปล่อยเช่าคอนโดให้คนต่างชาติพักอาศัย ผู้ให้เช่าจะต้องแจ้งต่อสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองหรือสถานีตำรวจในพื้นที่ให้ทราบ มิเช่นนั้นจะถือว่าเป็นการทำผิดกฎหมาย โดยกฎหมายดังกล่าวนี้ มีขึ้นเพื่อป้องกันความปลอดภัยและความสงบของประเทศ รวมถึงของตัวผู้ให้เช่าเองด้วย เพราะเราจะไม่สามารถทราบได้เลยว่าผู้เช่าชาวต่างชาตินั้นเป็นคนดีหรือเป็นอาชญากรข้ามชาติหรือไม่

3. สัญญาเช่าต้องถูกต้องไม่เอาเปรียบผู้เช่า

เรื่องของสัญญาเช่าคอนโดก็เป็นอีกหนึ่งประเด็นสำคัญที่ผู้ให้เช่าส่วนใหญ่อาจละเลยไป ไม่ได้ตรวจสอบให้ดีว่าเงื่อนไขและรายละเอียดต่าง ๆ นั้นเป็นไปตามข้อกฎหมายหรือไม่ ยกตัวอย่างข้อกฎหมายที่ออกมาเพื่อคุ้มครองผู้เช่า เช่น ผู้ให้เช่าต้องส่งใบแจ้งหนี้ล่วงหน้าแก่ผู้เช่าไม่น้อยกว่า 7 วัน ผู้ให้เช่าต้องมอบสัญญาให้ผู้เช่าเก็บไว้ 1 ฉบับ ผู้ให้เช่าห้ามเรียกเก็บค่าเช่าล่วงหน้าเกิน 1 เดือน ห้ามเรียกเก็บเงินประกันเกิน 1 เดือน เป็นต้น รายละเอียดเงื่อนไขการให้เช่าที่ต้องระบุเอาไว้ในสัญญาเหล่านี้ อาจดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ถ้าหากมีปัญหาเกิดขึ้น และมีการตรวจสอบว่าสัญญามีความผิดพลาด ขัดต่อข้อกฎหมาย ก็จะทำให้ผู้ให้เช่าไม่สามารถเรียกร้องเอาผิดกับทางผู้เช่าได้นั่นเอง เรียกได้ว่า หากต้องการให้การเช่าเป็นไปอย่างราบรื่น ก็ต้องให้ความสำคัญกับเรื่องการทำสัญญาให้ถูกต้องที่สุด

 

แม้การปล่อยเช่าคอนโดจะเป็นหนึ่งในรูปแบบการลงทุนอสังหาฯ ที่สร้างโอกาสในการทำรายได้แบบ Passive Income ให้กับนักลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ผลลัพธ์จะออกมาสำเร็จราบรื่นได้มากน้อยเพียงใดก็ขึ้นอยู่กับว่านักลงทุนได้ดำเนินการปล่อยเช่าคอนโดได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายด้วยหรือไม่ ตลอดไปจนถึงนักลงทุนยังจำเป็นต้องคำนึงถึงความเสี่ยงในการหาผู้เช่าให้ได้ต่อเนื่อง การวางแผนการเงินให้พร้อมรองรับช่วงเวลาที่ยังหาผู้เช่าไม่ได้ด้วย เพราะหากมองข้ามความเสี่ยงอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ไป แล้วสถานการณ์สภาพเศรษฐกิจมีปัญหา ก็จะส่งผลกระทบต่อแผนการลงทุนให้ล้มเหลวไม่เป็นไปตามเป้าหมายได้

Simplifying Property, Together.

ร่วมกันทำให้เรื่องอสังหาฯ ง่ายขึ้น