โดนัลด์ ทรัมป์: จากนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์สู่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา

โดนัลด์ ทรัมป์: จากนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์สู่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา

โดนัลด์ จอห์น ทรัมป์ (Donald John Trump) เกิดเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน ค.ศ. 1946 ที่ควีนส์ นิวยอร์ก เป็นนักธุรกิจ นักการเมือง และอดีตประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐอเมริกา ชีวิตของเขาเต็มไปด้วยความน่าสนใจและความขัดแย้งในหลายด้าน
ชีวิตในวัยเยาว์และการศึกษา
ทรัมป์เกิดในครอบครัวที่มั่งคั่ง โดยบิดาของเขา เฟร็ด ทรัมป์ เป็นนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ประสบความสำเร็จในนิวยอร์ก เขาได้รับการศึกษาที่โรงเรียนทหาร New York Military Academy และต่อมาเข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยฟอร์ดแฮม ก่อนจะย้ายไปเรียนที่ Wharton School แห่งมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย ซึ่งเขาจบการศึกษาด้านเศรษฐศาสตร์ในปี 1968

 

การขยายธุรกิจระดับนานาชาติ
Trump International Hotel and Tower
มีสาขาในหลายเมืองทั่วโลก นิวยอร์ค, ชิคาโก, ลาสเวกัส, วอชิงตัน ดี.ซี. โครงการในต่างประเทศ: ดูไบ, ปานามา, ฟิลิปปินส์

สนามกอล์ฟ
เป็นเจ้าของสนามกอล์ฟกว่า 17 แห่งทั่วโลก รวมถึง Trump National Doral ในไมอามี ลงทุนในสกอตแลนด์และไอร์แลนด์

วิธีการทำธุรกิจที่โดดเด่น
1. การสร้างแบรนด์ใช้ชื่อ “Trump” เป็นแบรนด์สินค้าระดับหรู
เน้นการตลาดและประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง
สร้างภาพลักษณ์ความหรูหราและความสำเร็จ

2. การเจรจาต่อรอง
มีชื่อเสียงด้านการเจรจาต่อรองที่แข็งกร้าว
เขียนหนังสือ “The Art of the Deal” เกี่ยวกับเทคนิคการเจรจา
ใช้อำนาจต่อรองกับธนาคารและนักลงทุน

3. การบริหารความเสี่ยง
ใช้บริษัทย่อยในการแยกความเสี่ยงแต่ละโครงการ
บริหารหนี้และการล้มละลายอย่างมีกลยุทธ์
ปรับตัวตามสภาพตลาดอสังหาริมทรัพย์

ความท้าทายและวิกฤตการณ์
วิกฤตการณ์ทางการเงินช่วงปี 1990 ธุรกิจคาสิโนประสบปัญหาหนี้สินต้องปรับโครงสร้างหนี้กว่า 3 พันล้านดอลลาร์ สูญเสียทรัพย์สินส่วนตัวบางส่วน

การฟื้นตัวทางธุรกิจปรับกลยุทธ์มาเน้นการให้ใช้ชื่อแบรนด์ (Licensing)
ขยายธุรกิจไปสู่ธุรกิจบันเทิงและสื่อ
สร้างรายได้จากรายการโทรทัศน์ “The Apprentice”

 

ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. Ut elit tellus, luctus nec ullamcorper mattis, pulvinar dapibus leo.

จุดเริ่มต้นกับ Elizabeth Trump & Son
หลังจบการศึกษาในปี 1968 ทรัมป์เข้าร่วมธุรกิจครอบครัว Elizabeth Trump & Son ซึ่งก่อตั้งโดยคุณย่าของเขา เอลิซาเบธ ทรัมป์ และดำเนินการต่อโดยบิดาของเขา เฟรด ทรัมป์ ในช่วงแรก เขาได้รับเงินทุนจากบิดาประมาณ 1 ล้านดอลลาร์เพื่อเริ่มต้นธุรกิจ
การขยายธุรกิจสู่แมนฮัตตัน
ในปี 1971 ทรัมป์ได้รับการควบคุมบริษัทและเปลี่ยนชื่อเป็น The Trump Organization โดยมีวิสัยทัศน์ในการขยายธุรกิจจากควีนส์และบรูคลินสู่แมนฮัตตัน ซึ่งเป็นย่านที่มีศักยภาพสูงกว่าโครงการสำคัญ

 

1. Commodore Hotel (1976)
โครงการแรกในแมนฮัตตัน
ปรับปรุงโรงแรมเก่าให้กลายเป็น Grand Hyatt
ได้รับการลดหย่อนภาษีจากเมืองนิวยอร์ค

 

2. Trump Tower (1983)
อาคารสูง 58 ชั้นบนถนน Fifth Avenue
เป็นทั้งที่พักอาศัยหรูและพื้นที่สำนักงาน
กลายเป็นสัญลักษณ์ของจักรวรรดิธุรกิจทรัมป์
มูลค่าโครงการกว่า 300 ล้านดอลลาร์

 

3. Trump Plaza และ Trump Palace
คอนโดมิเนียมหรูในนิวยอร์ค
ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีที่สุดของเมือง
ราคาขายสูงที่สุดในช่วงทศวรรษ 1980s

ธุรกิจคาสิโน
1. Trump Plaza Casino (1984)
คาสิโนแห่งแรกในแอตแลนติกซิตี ลงทุนกว่า 250 ล้านดอลลาร์

2. Trump’s Castle (1985)
ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น Trump Marina หนึ่งในคาสิโนที่ใหญ่ที่สุดในแอตแลนติกซิตี

3. Trump Taj Mahal (1990)
ใช้เงินลงทุนกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ ถูกขนานนามว่าเป็น “8th Wonder of the World” ประสบปัญหาทางการเงินและล้มละลายในปี 1991

การขยายธุรกิจระดับนานาชาติ

Trump International Hotel and Tower
มีสาขาในหลายเมืองทั่วโลก นิวยอร์ค, ชิคาโก, ลาสเวกัส, วอชิงตัน ดี.ซี. โครงการในต่างประเทศ: ดูไบ, ปานามา, ฟิลิปปินส์

สนามกอล์ฟ
เป็นเจ้าของสนามกอล์ฟกว่า 17 แห่งทั่วโลก รวมถึง Trump National Doral ในไมอามี ลงทุนในสกอตแลนด์และไอร์แลนด์

วิธีการทำธุรกิจที่โดดเด่น
1. การสร้างแบรนด์ใช้ชื่อ “Trump” เป็นแบรนด์สินค้าระดับหรู
เน้นการตลาดและประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง
สร้างภาพลักษณ์ความหรูหราและความสำเร็จ

2. การเจรจาต่อรอง
มีชื่อเสียงด้านการเจรจาต่อรองที่แข็งกร้าว
เขียนหนังสือ “The Art of the Deal” เกี่ยวกับเทคนิคการเจรจา
ใช้อำนาจต่อรองกับธนาคารและนักลงทุน

3. การบริหารความเสี่ยง
ใช้บริษัทย่อยในการแยกความเสี่ยงแต่ละโครงการ
บริหารหนี้และการล้มละลายอย่างมีกลยุทธ์
ปรับตัวตามสภาพตลาดอสังหาริมทรัพย์

ความท้าทายและวิกฤตการณ์
วิกฤตการณ์ทางการเงินช่วงปี 1990 ธุรกิจคาสิโนประสบปัญหาหนี้สินต้องปรับโครงสร้างหนี้กว่า 3 พันล้านดอลลาร์ สูญเสียทรัพย์สินส่วนตัวบางส่วน

การฟื้นตัวทางธุรกิจปรับกลยุทธ์มาเน้นการให้ใช้ชื่อแบรนด์ (Licensing)
ขยายธุรกิจไปสู่ธุรกิจบันเทิงและสื่อ
สร้างรายได้จากรายการโทรทัศน์ “The Apprentice”

Simplifying Property, Together.

ร่วมกันทำให้เรื่องอสังหาฯ ง่ายขึ้น