คำถามจากผู้ให้เช่า
ศึกษาตลาดเช่าในพื้นที่นั้นๆ อย่างละเอียด พิจารณาทำเลที่ตั้ง สภาพของบ้าน สิ่งอำนวยความสะดวกใกล้เคียง และราคาเช่าของบ้านที่คล้ายคลึงกัน
รายได้จากการให้เช่าที่พักอาศัยหรืออสังหาริมทรัพย์อื่นๆ คุณจะต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา อย่างไรก็ตาม มีข้อยกเว้นบางกรณีที่อาจไม่ต้องเสียภาษีแล้วแต่กรณี
แอคเซนท์มีการตรวจสอบผู้เช่าเป็นขั้นตอนสำคัญก่อนตัดสินใจให้เช่าที่พักอาศัยหรืออสังหาริมทรัพย์อื่นๆ เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาในภายหลัง เช่น การค้างค่าเช่า การทำลายทรัพย์สิน หรือปัญหาอื่นๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อคุณในฐานะเจ้าของทรัพย์สิน
มีการระบุความเสียหายที่ผู้เช่าต้องรับผิดชอบไว้ในสัญญาเช่า และเข้าทำการตรวจสอบสภาพบ้าน/คอนโดเป็นประจำ
สำหรับชาวต่างชาติที่ต้องการมอบอำนาจให้ผู้อื่นจัดการทรัพย์สินในประเทศไทย จะต้องมีการแปลเอกสารมอบอำนาจเป็นภาษาไทย และอาจมีขั้นตอนเพิ่มเติม ขึ้นอยู่กับประเภทของทรัพย์สินที่เกี่ยวข้อง
1. ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (สำหรับผู้ลงทุนโดยตรง)
หากพำนักในไทยน้อยกว่า 180 วันต่อปี: จะเสียภาษีเฉพาะเงินได้ที่ได้จากแหล่งที่มาในประเทศไทย
หากพำนักในไทย 180 วันขึ้นไปต่อปี: จะถือว่ามีถิ่นที่อยู่ตามกฎหมายภาษีในไทย และต้องเสียภาษีเงินได้จากรายได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะได้จากแหล่งที่มาในหรือต่างประเทศ
2. ภาษีนิติบุคคล (สำหรับบริษัทที่จัดตั้งในไทย)
บริษัทที่จัดตั้งในไทย ไม่ว่าจะมีผู้ถือหุ้นเป็นชาวไทยหรือชาวต่างชาติ จะต้องเสียภาษีนิติบุคคลจากกำไรสุทธิ
3. ภาษีหัก ณ ที่จ่าย
เป็นภาษีที่หัก ณ ที่จ่ายจากเงินได้บางประเภท เช่น ดอกเบี้ย เงินปันผล ค่าตอบแทนจากการให้บริการ เป็นต้น
4. ภาษีอื่นๆ ที่อาจเกี่ยวข้อง
ภาษีอสังหาริมทรัพย์: หากมีการซื้อขายหรือถือครองอสังหาริมทรัพย์ในไทย
ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT): สำหรับธุรกิจที่ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
อากรแสตมป์: สำหรับเอกสารสัญญาบางประเภท
ขึ้นอยู่กับปัจจัยที่ส่งผลต่ออัตราภาษีและความซับซ้อนของการเสียภาษีการวางแผนภาษีเป็นเรื่องที่ซับซ้อน ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีหรือที่ปรึกษาทางการเงิน เพื่อให้ได้รับคำแนะนำที่เหมาะสมกับสถานการณ์ของคุณ